ในยุคที่ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนเริ่มมองหาทางออกด้วยการ ติดตั้งโซลาร์เซลล์ แต่ทราบหรือไม่ว่า ไม่ใช่ทุกบ้านที่จะเหมาะกับการลงทุนนี้ แม้ความต้องการประหยัดค่าไฟจะสูงมาก แต่หากคุณอยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ การติดโซลาร์รูฟอาจกลายเป็นการลงทุนที่คืนทุนช้าจนไม่คุ้มค่า
1. บ้านที่ไม่มีคนอยู่ตอนกลางวัน
ระบบโซลาร์เซลล์ส่วนใหญ่ที่นิยมคือระบบ On-grid ซึ่งจะผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ทันที หากบ้านของคุณไม่มีการใช้ไฟในช่วงที่แสงแดดจัด (09.00 - 16.00 น.) พลังงานที่ผลิตได้จะถูกส่งทิ้งหรือขายคืนในราคาที่ต่ำมาก ทำให้ระยะเวลาการ คืนทุนโซลาร์เซลล์ ยาวนานออกไปอีกหลายปี
2. หลังคามีข้อจำกัดเรื่องทิศทางและร่มเงา
ประสิทธิภาพของ แผงโซลาร์รูฟ ขึ้นอยู่กับแสงแดด หากหลังคาบ้านคุณหันไปทางทิศเหนือ หรือมีตึกสูง ต้นไม้ใหญ่ บดบังแสงแดดเกือบตลอดวัน พลังงานที่ผลิตได้จะไม่เต็มประสิทธิภาพ การลงทุนติดระบบขนาดใหญ่ไปอาจได้ผลตอบแทนไม่คุ้มเสีย
3. โครงสร้างหลังคาเก่าหรือไม่แข็งแรง
แผงโซลาร์และอุปกรณ์ยึดเกาะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก หากบ้านเก่าเกิน 20-30 ปี หรือโครงสร้างหลังคาเริ่มเสื่อมสภาพ การติดตั้งอาจทำให้หลังคาทรุดหรือรั่วซึมได้ ซึ่งค่าซ่อมแซมภายหลังอาจแพงกว่าค่าไฟที่ประหยัดได้
4. มียอดค่าไฟฟ้าน้อยเกินไป
หากค่าไฟรายเดือนของคุณไม่เกิน 1,500 - 2,000 บาท การติดตั้งระบบ Solar Rooftop ขนาดเล็กที่สุดก็ยังถือว่าใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน เนื่องจากการติดตั้งมีต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) เช่น ค่าดำเนินการขออนุญาตและค่าแรงช่าง
สรุป: ก่อนตัดสินใจติดตั้ง ควรเช็กพฤติกรรมการใช้ไฟและสภาพบ้านให้ดี เพื่อให้การ ประหยัดค่าไฟ ด้วยพลังงานสะอาดเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ
โซลาร์เซลล์, ค่าไฟแพง, ประหยัดพลังงาน, SolarRooftop, ข้อคิดก่อนติดโซลาร์, บ้านและสวน, พลังงานสะอาด
